คู่มือดูแลรักษาพื้นแกรนิตโต้ให้สวยเงางามเหมือนใหม่ไปอีกนาน

คู่มือดูแลรักษาพื้นแกรนิตโต้ให้สวยเงางามเหมือนใหม่ไปอีกนาน

 

พื้นแกรนิตโต้ได้รับความนิยมอย่างสูงในปัจจุบัน

ด้วยความสวยงามที่เลียนแบบหินธรรมชาติได้อย่างสมจริง มอบความรู้สึกหรูหรา

ทันสมัย และมีรสนิยมให้กับ ทุกพื้นที่ในบ้าน. กระเบื้องชนิดนี้โดดเด่น  

 

 

ด้วยคุณสมบัติที่แข็งแรงทนทาน ดูแลรักษาง่าย และมีอัตราการดูดซึมน้ำต่ำ. สิ่งนี้ทำให้  

 

 

เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าและใช้งานได้หลากหลาย ทั้งภายในและภายนอกอาคาร. เพื่อให้  

 

 

พื้นแกรนิตโต้ยังคงความเงางามและคงทนเหมือนใหม่ ไปอีกนาน การดูแลรักษาที่ถูกต้องและสม่ำเสมอ จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง.  

 

 

พื้นแกรนิตโต้จึงเป็นทางเลือกที่มอบความหรูหราที่ ใช้งานได้จริง เป็นความสง่างามที่เข้าถึงง่าย ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบสำคัญที่ควรนำมาพิจารณา ในการเลือกใช้วัสดุตกแต่งบ้าน.  

 

 

กระเบื้องแกรนิตโต้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ทางเลือกที่ ราคาถูกกว่าหินอ่อนแท้เท่านั้น แต่ยังมอบ ประสิทธิภาพที่ดีกว่าสำหรับการใช้ชีวิตประจำวัน อีกด้วย.  

 

 

แม้ว่ากระเบื้องแกรนิตโต้จะขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแกร่ง และทนทานต่อรอยขีดข่วนโดยรวม  

 

 

แต่ก็มีข้อควรพิจารณาในบางกรณีที่อาจมีความ ทนทานต่อการแตกหรือการคลายตัวของสีไม่เท่า หินอ่อนแท้. ดังนั้น การดูแลเชิงป้องกัน  

 

 

จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อรักษาพื้นผิวให้สวยงาม และคงทนยาวนาน ไม่ใช่เพียงแค่การทำความสะอาด เมื่อเกิดปัญหาเท่านั้น.  

 

 

 

ทำความรู้จักพื้นแกรนิตโต้: คุณสมบัติที่ควรรู้

 

เพื่อการดูแลที่เหมาะสม

กระเบื้องแกรนิตโต้ หรือที่เรียกว่ากระเบื้องพอร์ซเลน (Porcelain tile) หรือ Homogeneous tile

เป็นวัสดุ ปูพื้นที่ผลิตจากผงหินแกรนิตบดละเอียดผสมกับ ดินขาวและแร่ธาตุอื่นๆ. จากนั้นนำไป  

 

 

ผ่านกระบวนการอัดขึ้นรูปและเผาด้วยอุณหภูมิที่สูงมาก ถึง 1,200 องศาเซลเซียส. กระบวนการ  

 

 

ผลิตนี้ทำให้กระเบื้องมีคุณสมบัติที่โดดเด่นและแตกต่าง จากกระเบื้องเซรามิกทั่วไปอย่างชัดเจน

คุณสมบัติสำคัญที่ส่งผลต่อการดูแลรักษา:

ประการแรกคือความแข็งแรงทนทานสูง กระเบื้องแกรนิตโต้มีความแข็งแกร่งใกล้เคียงหินธรรมชาติ

ทนทานต่อการขีดข่วน การแตกร้าว และสามารถรับ น้ำหนักได้ดีเยี่ยม. จึงเหมาะสำหรับ  

 

 

การใช้งานในพื้นที่ที่มีการสัญจรสูงและมีการใช้งานหนัก .  

 

 

ประการที่สองคือการดูดซึมน้ำต่ำมาก นี่คือจุดเด่นที่สำคัญที่สุดของแกรนิตโต้

โดยมีอัตราการดูดซึมน้ำน้อยกว่า 0.5% หรือบางชนิดน้อยกว่า 0.1%.  

 

 

คุณสมบัตินี้ทำให้กระเบื้องทนทานต่อความชื้น คราบสกปรก และการเกิดเชื้อราได้เป็นอย่างดี

จึงทำความสะอาดได้ง่ายและเหมาะสำหรับทั้ง พื้นที่เปียกและแห้ง.  

 

 

คุณสมบัติการดูดซึมน้ำที่ต่ำนี้เป็นรากฐานสำคัญ ที่ทำให้แกรนิตโต้ทำความสะอาดง่าย ทนทานต่อคราบสกปรก

และทนต่อความชื้น ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมีรุนแรงหรือ น้ำปริมาณมากเกินไปในการทำความสะอาด .  

 

 

ประการที่สามคือผิวสัมผัสหลากหลาย กระเบื้องแกรนิตโต้มีให้เลือกทั้งแบบผิวมันเงา ที่ให้ความหรูหราและสะท้อนแสงได้ดี

และแบบผิวด้านหรือผิวหยาบที่ให้ความรู้สึก เป็นธรรมชาติและมีคุณสมบัติกันลื่นที่ดีกว่า . การเลือกผิวสัมผัสที่เหมาะสม  

 

 

กับพื้นที่การใช้งานจะช่วยให้การดูแลรักษามี ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น. ผิวแบบด้าน  

 

 

บางชนิดอาจทำความสะอาดคราบฝุ่นดำได้ยากกว่า ในขณะที่ผิวหยาบสำหรับพื้นที่เปียกอาจมีการ สะสมคราบสบู่ได้ง่ายกว่า. การเข้าใจถึง  

 

 

ความแตกต่างนี้จะช่วยให้เลือกวิธีการดูแลที่เหมาะสม เช่น การใช้อุปกรณ์ที่อ่อนโยนสำหรับผิวเงา

และการใช้แปรงขนอ่อนสำหรับผิวหยาบ เพื่อขจัดคราบฝังแน่นที่อาจเกิดขึ้นได้ง่ายกว่า

ประการสุดท้ายคือลวดลายและสีสันเสมือนจริง ด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์แบบดิจิทัล ทำให้กระเบื้อง

แกรนิตโต้สามารถเลียนแบบลวดลายของหินอ่อน ธรรมชาติได้อย่างสมจริง. มีความ  

 

 

หลากหลายทั้งสีขาว สีดำ สีครีม และลวดลาย เส้นแร่ที่คมชัดเป็นธรรมชาติ.  

 

 

โดยมีขนาดตั้งแต่ 30 x 60 ซม. ไปจนถึง 120 x 240 ซม. และใหญ่กว่านั้น .  

 

 

 

การดูแลประจำวัน: เคล็ดลับง่ายๆ

 

เพื่อความเงางามไม่รู้จบ

การดูแลพื้นแกรนิตโต้ให้สวยเงางามเหมือนใหม่ ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่ทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ และถูกวิธี

ก็จะช่วยป้องกันการสะสมของสิ่งสกปรก และคงความเงางามได้ยาวนาน

เริ่มต้นด้วยการกวาดหรือดูดฝุ่นเป็นประจำ ควรปัดกวาดหรือดูดฝุ่นและเศษขยะออกจากพื้นผิว อย่างน้อยวันละครั้ง

หรือบ่อยขึ้นในพื้นที่ที่มีการสัญจรมาก . การทำเช่นนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้ฝุ่น  

 

 

และสิ่งสกปรกสะสมและกลายเป็นสาเหตุของรอยขีดข่วน บนพื้นผิวเมื่อมีการเดินหรือถู. การใช้  

 

 

ไม้กวาดขนอ่อนหรือเครื่องดูดฝุ่นที่มีหัวแปรงอ่อนนุ่ม จะช่วยถนอมพื้นผิวได้ดียิ่งขึ้น.  

 

 

หลังจากกวาดหรือดูดฝุ่นแล้ว ให้ถูพื้นด้วยน้ำยาที่เหมาะสม ควรใช้น้ำอุ่นผสมน้ำยาทำความสะอาดที่มีค่า pH เป็นกลาง (Neutral pH). น้ำยาทำความสะอาด  

 

 

เฉพาะสำหรับกระเบื้องแกรนิตโต้หรือพอร์ซเลนจะให้ผลลัพธ์ ที่ดีที่สุดและปลอดภัยต่อพื้นผิว. ควรผสมน้ำยา  

 

 

ในอัตราส่วนที่แนะนำบนฉลากผลิตภัณฑ์ เช่น น้ำยา 1 ส่วน ต่อน้ำสะอาด 50 ส่วน. การใช้น้ำยาทำความสะอาดที่  

 

 

อ่อนโยนและเฉพาะทางจะช่วยรักษาสภาพพื้นผิว และป้องกันความเสียหายระยะยาวจากสารเคมีรุนแรง หรืออนุภาคขัดถู. หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยา  

 

 

ทำความสะอาดที่มีฤทธิ์รุนแรงหรือมีส่วนผสมของกรด เพราะอาจทำลายพื้นผิวหรือยาแนวได้.  

 

 

สิ่งสำคัญคือต้องบิดผ้าถูพื้นให้หมาดและเช็ดให้แห้ง ควรบิดผ้าถูพื้นหรือไม้ถูพื้นไมโครไฟเบอร์ให้หมาดที่สุด เท่าที่จะทำได้ก่อนนำมาเช็ดถู. หลังจาก  

 

 

ถูทำความสะอาดแล้ว ควรใช้ผ้าสะอาดนุ่มหรือไม้ถูพื้นแห้ง เช็ดซ้ำอีกครั้งทันที เพื่อป้องกันการเกิดคราบน้ำหรือรอยเปื้อน ที่อาจเกิดขึ้นเมื่อน้ำแห้งเอง. การทำเช่นนี้  

 

 

จะช่วยให้พื้นแกรนิตโต้เงางามไร้คราบและลดความเสี่ยง ของการลื่น.  

 

 

ความสม่ำเสมอคือกุญแจสำคัญ การทำความสะอาด ประจำวันอย่างสม่ำเสมอเป็นหัวใจสำคัญในการรักษา ความเงางามของพื้นแกรนิตโต้. ยิ่งหมั่น  

 

 

ทำความสะอาดมากเท่าไร โอกาสในการเกิดคราบฝังลึก หรือความหมองคล้ำก็จะยิ่งน้อยลงเท่านั้น.  

 

 

การทำความสะอาดบ่อยครั้งและอ่อนโยนนั้นมี ประสิทธิภาพมากกว่าการทำความสะอาดที่ไม่บ่อย แต่รุนแรง ซึ่งเป็นการดูแลเชิงป้องกันคราบฝังลึก และความเสียหายที่รุนแรงกว่า

 

จัดการคราบฝังแน่น: วิธีขจัดคราบสกปรก

 

ให้พื้นกลับมาสะอาด

เมื่อพื้นแกรนิตโต้มีคราบฝังแน่นที่การทำความสะอาด ประจำวันไม่สามารถขจัดออกได้ การเลือกใช้วิธีการ

และผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้พื้น กลับมาสะอาดเงางามโดยไม่ทำลายพื้นผิว

ก่อนการทำความสะอาด ควรระบุประเภทของคราบสกปรก ที่เกิดขึ้น เพื่อเลือกวิธีที่ถูกต้อง คราบดำจากเชื้อรา

มักเกิดจากความชื้นสะสมหรือการทำความสะอาดไม่ทั่วถึง พบได้บ่อยในบริเวณมุมห้องหรือห้องน้ำ.  

 

 

คราบสบู่และขี้ไคลพบได้ทั่วไปในห้องน้ำ โดยเฉพาะ บนกระเบื้องสีขาวหรือสีอ่อน หากปล่อยทิ้งไว้นาน

อาจกลายเป็นคราบฝังลึก. คราบขาวด่างจาก  

 

 

น้ำสกปรกหรือหินปูนเห็นได้ชัดบนกระเบื้องที่แห้ง โดยเฉพาะกระเบื้องสีเข้ม เกิดจากน้ำที่ระเหยและทิ้ง

คราบแร่ธาตุไว้. คราบมันและไขมัน  

 

 

เกิดจากเศษอาหารหรือน้ำมันหกใส่.  

 

 

คราบสนิมเกิดจากการสัมผัสกับโลหะที่มีสนิม . สุดท้ายคือคราบซีเมนต์หรือยาแนว  

 

 

ซึ่งมักเป็นคราบที่หลงเหลือหลังการติดตั้ง .  

 

 

วิธีการขจัดคราบเฉพาะจุด:

สำหรับคราบทั่วไปและฝุ่นหนาแน่น ใช้น้ำยาถูพื้นทั่วไปผสมน้ำ เช็ดด้วยผ้าขนนุ่ม หรือใช้น้ำยาดันฝุ่นเพื่อดักจับฝุ่นและขจัดคราบ

ให้สะอาดหมดจด.  

 

 

สำหรับคราบดำและเชื้อรา ผสมน้ำยาล้างจาน 1 ช้อนชา กับไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ¼ ถ้วยตวง และเบกกิ้งโซดา ½

ถ้วยตวงให้เข้ากัน จากนั้นนำไปขัดบนพื้นกระเบื้องแล้วล้างออก.  

 

 

สำหรับคราบสบู่และขี้ไคล หากเป็นคราบไม่ฝังแน่น สามารถใช้ผ้าชุบน้ำสะอาด เช็ดออกได้ แต่หากฝังแน่นแล้ว

ให้ใช้วิธีการเดียวกับ การขจัดคราบทั่วไปหรือคราบขาวด่าง.  

 

 

สำหรับคราบขาวด่าง หินปูน และสนิม วิธีที่ปลอดภัยสูงคือใช้น้ำอัดลมราดลงบนคราบ ทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง

จากนั้นใช้แปรงขัดคราบออก แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด. น้ำอัดลมมีกรดอ่อนๆ  

 

 

ที่ช่วยขจัดคราบได้โดยไม่ทำลายพื้นผิวเหมือน น้ำยาล้างห้องน้ำ. อีกทางเลือกธรรมชาติคือบีบน้ำมะนาว ลงบนคราบสกปรก

ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที แล้วใช้ แปรงสีฟันเก่าขัดออก จากนั้นล้างด้วยน้ำสะอาด วิธีนี้ช่วยขจัดคราบสกปรก คราบเหลือง

และคราบสนิม ได้ดี. หรือโรยเบกกิ้งโซดาบนคราบ  

 

 

แล้วพรมน้ำส้มสายชูให้ทั่ว ทิ้งไว้ให้เกิดฟองสักพัก แล้วขัดด้วยฟองน้ำ ก่อนล้างออกด้วยน้ำเปล่า .

นอกจากนี้ยังสามารถใช้สารเคมีผสม  

 

 

โดยผสมไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ¼ ถ้วยตวง กับ น้ำส้มสายชู ½ ถ้วยตวง ใส่น้ำอุ่น 1.5 แกลลอน และน้ำมันหอมระเหย

5-10 หยด ผสมให้เข้ากัน แล้วนำมาราดบนกระเบื้องที่มีคราบสกปรก ทิ้งไว้ สักครู่แล้วขัดทำความสะอาด.  

 

 

สำหรับคราบมันและไขมัน ใช้น้ำยาเช็ดขจัดคราบน้ำมันและไขมันโดยเฉพาะ ผสมกับน้ำตามอัตราส่วนที่แนะนำ

แล้วเทลงบนคราบมัน จากนั้นใช้ฟองน้ำผิวนุ่มทำความสะอาด น้ำยาจะช่วยดึง คราบไขมันออกได้อย่างหมดจด.  

 

 

สำหรับคราบซีเมนต์และยาแนวหลังติดตั้ง ใช้น้ำยาขจัดคราบซีเมนต์และคราบยาแนวโดยเฉพาะ เช่น

น้ำยาขจัดคราบซีเมนต์ COTTO IZYCLEAN หรือ น้ำยาจระเข้ ทำความสะอาดร่องยาแนว  

 

 

. ควรทำตามคำแนะนำบนฉลากผลิตภัณฑ์  

 

 

อย่างเคร่งครัด โดยทั่วไปคือทาน้ำยาลงบนคราบโดยตรง สำหรับคราบฝังแน่น หรือผสมน้ำสำหรับคราบปกติ .  

 

 

ข้อควรระวังสำคัญคือการทดสอบก่อนเสมอ ไม่ว่าจะใช้น้ำยาชนิดใด ควรทดสอบในพื้นที่เล็กๆ ที่ไม่เด่นชัดก่อนเสมอ

เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่เกิด ความเสียหายต่อพื้นผิวหรือสีของกระเบื้อง. ห้ามใช้อุปกรณ์หยาบคม ห้ามใช้อุปกรณ์ทำความสะอาด

ที่มีผิวหยาบ แหลมคม หรือแปรงขัดที่แข็งกระด้าง เพราะอาจทำให้เกิดรอยขีดข่วนบนพื้นผิวแกรนิตโต้ได้ .

ควรใช้ฟองน้ำผิวนุ่มหรือผ้าไมโครไฟเบอร์  

 

 

เท่านั้น. อย่าปล่อยคราบสกปรกทิ้งไว้นาน  

 

 

การไม่ทำความสะอาดคราบที่หกเลอะเทอะทันที จะทำให้คราบฝังลึกและขจัดออกได้ยากขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่ความเสียหายถาวรได้.  

 

 

การทำความสะอาดที่ไม่ถูกต้องไม่ได้แค่ล้มเหลวในการ ขจัดคราบ แต่ยังทำลายวัสดุหรือผิวเคลือบของพื้นผิว อย่างต่อเนื่อง

ความเสียหายนี้อาจไม่ปรากฏให้เห็นทันที แต่จะสะสมไปเรื่อยๆ ทำให้พื้นหมอง มีรอยด่าง หรือเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดคราบในอนาคต .

ดังนั้น การเลือกใช้กรดธรรมชาติอ่อนๆ  

 

 

เช่น มะนาว น้ำส้มสายชู น้ำอัดลม หรือน้ำยาเฉพาะทาง ที่ไม่ทำลายผิว จึงเป็นแนวทางที่ปลอดภัยกว่า สำหรับคราบฝังแน่น.  

 

 

 

ฟื้นฟูความเงางาม: การขัดและเคลือบ

 

เพื่อพื้นแกรนิตโต้ที่เปล่งประกาย

เมื่อเวลาผ่านไป พื้นแกรนิตโต้ที่เคยเงางามอาจเริ่ม หมองลงจากการใช้งาน การขัดและเคลือบผิวเป็นประจำ

จะช่วยฟื้นฟูความเงางามและสร้างชั้นปกป้องให้พื้นดู เหมือนใหม่อยู่เสมอ

การขัดเงาพื้นผิว ควรขัดเงากระเบื้องแกรนิตโต้ปีละ 1-2 ครั้ง.  

 

 

หากต้องการรักษาความเงางามเป็นพิเศษ อาจพิจารณาการปั่นเงาประจำสัปดาห์ด้วยน้ำยาปัดเงา . ผลิตภัณฑ์ที่แนะนำคือ

น้ำยาขัดเงาเฉพาะสำหรับกระเบื้องแกรนิตโต้ หรือหินธรรมชาติ เช่น น้ำยาขัดเงา Tenax CeraFluida , Simple-Green , Hi-Wax ,  

 

 

3M Super Shine หรือ Snowcream.  

 

 

ผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะช่วยเพิ่มความเงางามและปกป้องพื้นผิว.

วิธีการขัดเงาพื้นผิว: ประการแรกคือการทำความสะอาดพื้น ก่อนการขัดเงา พื้นผิวต้องสะอาดปราศจากฝุ่น

และสิ่งสกปรก และแห้งสนิท. การเตรียม  

 

 

พื้นผิวที่ดีจะช่วยให้น้ำยาทำงานได้อย่างมี ประสิทธิภาพและไม่ทิ้งคราบ. ประการที่สองคือ การทาน้ำยา

ใช้ผ้าสะอาดหรือฟองน้ำทาน้ำยา ขัดเงาลงบนพื้นผิวบางๆ และสม่ำเสมอ.  

 

 

ประการที่สามคือการทิ้งไว้ให้แห้ง ปล่อยให้น้ำยา แห้งสนิทตามระยะเวลาที่ระบุบนฉลากผลิตภัณฑ์ .

ประการสุดท้ายคือการเช็ดซ้ำ  

 

 

ใช้ผ้าสะอาดนุ่มเช็ดทำความสะอาดพื้นผิวซ้ำอีกครั้ง หลังน้ำยาแห้ง เพื่อให้เกิดความเงางาม.  

 

 

สำหรับพื้นที่ขนาดใหญ่ การใช้เครื่องขัดพื้นพร้อม แผ่นขัดที่เหมาะสมจะช่วยให้การขัดเงาเป็นไปอย่าง

ทั่วถึงและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น.

การลงน้ำยาเคลือบพื้นผิว (Wax) นอกจากการขัดเงาแล้ว การลงน้ำยาเคลือบพื้นผิว หรือแว็กซ์ (Wax)

เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยเพิ่มความเงางาม และสร้างชั้นฟิล์มบางๆ เพื่อปกป้องพื้นผิวจากรอยขีดข่วน และคราบสกปรกต่างๆ. ควรเลือกน้ำยา  

 

 

เคลือบที่ระบุว่าใช้ได้กับกระเบื้องแกรนิตโต้หรือหินธรรมชาติ . การบำรุงรักษาเชิงรุกนี้เป็นการฟื้นฟู

และปกป้องพื้นผิวอย่างจริงจัง ซึ่งช่วยป้องกันความ หมองคล้ำและรอยขีดข่วนเล็กน้อย.

 

ปกป้องพื้นแกรนิตโต้: ป้องกันรอยขีดข่วน

 

และความเสียหายในระยะยาว

การดูแลรักษาพื้นแกรนิตโต้ให้สวยเงางามไม่ใช่แค่ การทำความสะอาด แต่ยังรวมถึงการป้องกันความเสียหาย

ที่อาจเกิดขึ้นในระยะยาว ซึ่งจะช่วยยืดอายุการใช้งาน และคงความสวยงามของพื้นได้ยาวนาน

ควรวางพรมเช็ดเท้าบริเวณทางเข้าบ้านหรือบริเวณที่มี การสัญจรจากภายนอก เพื่อดักจับฝุ่นละออง กรวดทราย

และสิ่งสกปรกต่างๆ ก่อนที่จะถูกนำเข้ามาบนพื้นแกรนิตโต้ . การทำเช่นนี้ช่วยลดโอกาสการเกิดรอยขีดข่วน  

 

 

จากการเสียดสีของสิ่งสกปรก.

ใช้แผ่นรองเฟอร์นิเจอร์โดยติดแผ่นรองเฟอร์นิเจอร์หรือ สักหลาดรองใต้ขาเฟอร์นิเจอร์ โดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ที่มี

น้ำหนักมากหรือมีการเคลื่อนย้ายบ่อยครั้ง. สิ่งนี้  

 

 

จะช่วยป้องกันการเกิดรอยขีดข่วน รอยบุบ หรือความเสียหาย อื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการลากหรือกระแทก.

พยายามหลีกเลี่ยงการลากของหนัก ควรหลีกเลี่ยงการลากเฟอร์นิเจอร์หรือวัตถุที่มีน้ำหนักมาก

โดยตรงบนพื้นแกรนิตโต้ หากจำเป็นต้องเคลื่อนย้าย ควรยกขึ้นหรือใช้รถเข็นที่มีล้ออ่อนนุ่ม เพื่อลดแรงเสียดสี และป้องกันรอย.  

 

 

เลือกใช้อุปกรณ์ทำความสะอาดที่เหมาะสม ใช้ไม้ถูพื้น ผ้า หรือฟองน้ำที่สะอาดและอยู่ในสภาพดีเสมอ

หลีกเลี่ยงไม้ถูพื้นที่ชำรุด แปรงขัดที่มีขนแปรงแข็ง หรือฟองน้ำที่มีเศษสิ่งสกปรกเกาะอยู่ เพราะอาจทำให้เกิด รอยขีดข่วนบนพื้นผิวแกรนิตโต้ได้.  

 

 

ควรเลือกใช้อุปกรณ์ที่อ่อนนุ่ม เช่น ผ้าไมโครไฟเบอร์ หรือไม้ถูพื้นที่มีผ้าขนอ่อนนุ่ม.  

 

 

การเลือกกระเบื้องที่มีคุณภาพตั้งแต่แรกเริ่ม จะช่วยให้พื้นมีความแข็งแรงทนทานต่อการใช้งาน และรอยขีดข่วนได้ดียิ่งขึ้น.  

 

 

กระเบื้องเกรดสูงมักมีคุณสมบัติที่ดีกว่า ในการต้านทานความเสียหาย.  

 

 

การป้องกันความเสียหายมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่า และสร้างความยุ่งยากน้อยกว่าการซ่อมแซมหรือ เปลี่ยนกระเบื้องที่เสียหายโดยสิ้นเชิง.

การลงทุนเริ่มต้นในกระเบื้องคุณภาพดีและมาตรการ ป้องกัน จะช่วยลดความจำเป็นในการบำรุงรักษา ที่ต้องใช้แรงงานมากในอนาคต และยังคงรักษา มูลค่าความสวยงามของพื้นไว้ได้.

 

สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง: สารเคมีและอุปกรณ์

 

ที่อาจทำลายพื้นผิว

เพื่อให้พื้นแกรนิตโต้ของคุณสวยเงางามยาวนาน สิ่งสำคัญคือต้องหลีกเลี่ยงสารเคมีและพฤติกรรม บางอย่างที่อาจสร้างความเสียหายต่อพื้นผิว

สารเคมีที่ควรหลีกเลี่ยงอย่างเด็ดขาด: ประการแรกคือน้ำยาทำความสะอาดที่มีกรดรุนแรง ห้ามใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของกรดต่างๆ

เช่น กรดไฮโดรคลอริก, กรดไนตริก, กรดซัลฟิวริก หรือกรดไฮโดรฟลูออริก. กรดเหล่านี้  

 

 

จะกัดกร่อนเนื้อหินและยาแนว ทำให้เกิดรอยด่าง ความหมองคล้ำ หรือความเสียหายถาวร.  

 

 

ประการที่สองคือสารเคมีประเภทไอโซโพรพิล (แอลกอฮอล์) ควรหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีประเภทนี้ ในการทำความสะอาดกระเบื้องแกรนิตโต้เช่นกัน .

ประการสุดท้ายคือการผสมสารฟอกขาว  

 

 

กับสารเคมีอื่น ห้ามใช้น้ำยาฟอกขาวร่วมกับผลิตภัณฑ์ ที่มีส่วนผสมของแอมโมเนีย แอลกอฮอล์ น้ำยาล้างห้องน้ำ หรือน้ำยาล้างเล็บ

เพราะสารเคมีเหล่านี้อาจทำปฏิกิริยา กัน เกิดเป็นไอระเหยที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ .  

 

 

อุปกรณ์ทำความสะอาดที่ควรหลีกเลี่ยง: หลีกเลี่ยงอุปกรณ์ที่มีผิวหยาบและแหลมคม เช่น แปรงขัดที่มีขนแปรงแข็ง

ไม้ถูพื้นที่ชำรุด หรือฟองน้ำที่มีเศษสิ่งสกปรกติดอยู่.  

 

 

เพราะอาจทำให้เกิดรอยขีดข่วนบนพื้นผิวที่เงางาม ของแกรนิตโต้ได้. ควรเลือกใช้อุปกรณ์  

 

 

ที่อ่อนนุ่ม เช่น ผ้าไมโครไฟเบอร์ หรือไม้ถูพื้นที่มี ผ้าขนอ่อนนุ่ม.  

 

 

พฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยง: ประการแรกคือการปล่อยคราบสกปรกทิ้งไว้นาน การไม่ทำความสะอาดคราบที่หกเลอะเทอะทันที

จะทำให้คราบฝังลึกและขจัดออกได้ยากขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่ความเสียหายถาวรได้.  

 

 

ประการที่สองคือการใช้น้ำยาทำความสะอาดมากเกินไป การใช้น้ำยาในปริมาณมากเกินความจำเป็นและปล่อยทิ้งไว้

บนพื้นนานเกินไป อาจทำให้เกิดคราบเหนียวหรือคราบด่าง บนพื้นผิวได้. ประการสุดท้ายคือการปล่อยให้พื้น  

 

 

แห้งเองหลังการถูน้ำ หากถูพื้นด้วยน้ำแล้วไม่เช็ดให้แห้ง ทันที อาจเกิดคราบน้ำหรือคราบแร่ธาตุที่มองเห็นได้ชัด

เมื่อน้ำระเหยไป.  

 

 

การทำความสะอาดที่ไม่ถูกต้องไม่ได้แค่ล้มเหลวในการ ขจัดคราบ แต่ยังสร้างความเสียหายที่มองไม่เห็น ต่อวัสดุหรือผิวเคลือบของพื้นผิวอย่างต่อเนื่อง

ความเสียหายนี้อาจไม่ปรากฏให้เห็นทันที แต่จะสะสม ไปเรื่อยๆ ทำให้พื้นหมอง มีรอยด่าง หรือเพิ่มความเสี่ยง ต่อการเกิดคราบในอนาคต.  

 

 

การหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้จึงเป็นการป้องกัน ความเสียหายในระยะยาว.

 

การดูแลร่องยาแนว: ส่วนสำคัญ

 

ที่ไม่ควรมองข้าม

ร่องยาแนวเป็นส่วนที่มักถูกละเลยในการทำความสะอาด แต่เป็นจุดที่สิ่งสกปรก เชื้อรา และคราบต่างๆ สะสมได้ง่าย

ทำให้พื้นดูไม่สะอาดและอาจส่งผลกระทบต่อสุขอนามัย ของผู้อยู่อาศัยได้. การดูแลร่องยาแนว  

 

 

อย่างเหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาความสวยงาม และความสะอาดโดยรวมของพื้นแกรนิตโต้.

ทำความสะอาดเป็นประจำ ใช้แปรงยาแนวหรือแปรงสีฟันเก่าขนาดเล็ก ร่วมกับ น้ำยาทำความสะอาดอ่อนๆ หรือน้ำยาทำความสะอาด

ร่องยาแนวโดยเฉพาะ เช่น น้ำยาจระเข้ ทำความสะอาด ร่องยาแนว. ขัดทำความสะอาดตามแนว  

 

 

ร่องยาแนวอย่างเบามือ เพื่อขจัดคราบสกปรกและเชื้อรา ที่ฝังตัวอยู่.  

 

 

หลีกเลี่ยงสารเคมีกัดกร่อน เช่นเดียวกับการทำความสะอาดพื้นผิวกระเบื้อง ควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีฤทธิ์กัดกร่อน

รุนแรงกับร่องยาแนว เพราะอาจทำให้ยาแนวสึกกร่อน เปลี่ยนสี หรือเสียหายได้.  

 

 

การทายาแนวใหม่ สำหรับกระเบื้องพอร์ซเลน โดยเฉพาะชนิดที่ไม่ขัดเงา ควรพิจารณาการทายาแนวกระเบื้องใหม่ทุก 2-3 ปี .

การทำเช่นนี้จะช่วยป้องกันคราบสกปรก  

 

 

และรอยขีดข่วนในระยะยาว และยังช่วยให้ร่องยาแนว ดูใหม่และสะอาดอยู่เสมอ. ควรยาแนวหลังจาก  

 

 

ปูกระเบื้องและกาวซีเมนต์บ่มตัวสมบูรณ์แล้วอย่างน้อย 48 ชั่วโมง.  

 

 

ยาแนวที่สกปรก ไม่เพียงแต่ทำให้พื้นดูไม่สวยงามเท่านั้น แต่ยังอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัยด้วย .

การดูแลยาแนวอย่างสม่ำเสมอจึงเป็น  

 

 

สิ่งจำเป็นสำหรับทั้งความสวยงามและสุขอนามัยของบ้าน. การยาแนวใหม่หรือการเคลือบยาแนวเป็นระยะ

เป็นกลยุทธ์ระยะยาวในการป้องกันคราบฝังลึก และรักษาความสมบูรณ์ของพื้น.

 

สรุป: พื้นแกรนิตโต้สวยทนทานด้วย

 

การดูแลที่ใส่ใจ

พื้นแกรนิตโต้เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับบ้าน ที่ต้องการความสวยงาม หรูหรา และความทนทาน ในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย. ด้วยคุณสมบัติ  

 

 

เด่นด้านความแข็งแรงและการดูดซึมน้ำต่ำ ทำให้การดูแลรักษาพื้นแกรนิตโต้เป็นเรื่องที่ไม่ซับซ้อน .  

 

 

หัวใจสำคัญของการรักษาพื้นแกรนิตโต้ให้สวยเงางาม เหมือนใหม่ไปอีกนานคือ:

ความสม่ำเสมอ: การทำความสะอาดประจำวันอย่าง สม่ำเสมอจะช่วยป้องกันการสะสมของสิ่งสกปรก และคราบฝังแน่น.  

 

 

การเลือกใช้วัสดุและอุปกรณ์ที่เหมาะสม: ใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีค่า pH เป็นกลาง และผลิตภัณฑ์เฉพาะสำหรับแกรนิตโต้

รวมถึงอุปกรณ์ทำความสะอาดที่อ่อนนุ่ม เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายต่อพื้นผิว .  

 

 

การป้องกันความเสียหาย: การวางพรมเช็ดเท้า การใช้แผ่นรองเฟอร์นิเจอร์ และการหลีกเลี่ยง การลากของหนัก

จะช่วยลดโอกาสการเกิด รอยขีดข่วนและความเสียหายในระยะยาว .   

 

 

 

การดูแลยาแนว: อย่าละเลยการทำความสะอาด และบำรุงรักษาร่องยาแนว ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่

ส่งผลต่อความสวยงามและสุขอนามัยโดยรวมของพื้น .  

 

 

การดูแลที่ถูกต้องและใส่ใจเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะช่วย รักษาความสวยงามและความเงางามของพื้นแกรนิตโต้

ให้คงอยู่ยาวนานเหมือนใหม่เท่านั้น แต่ยังเป็นการเพิ่ม มูลค่าและความน่าอยู่ให้กับบ้านอีกด้วย การบำรุงรักษา

อย่างขยันขันแข็งจะช่วยรักษา ความสวยงามและมูลค่าของบ้านโดยตรง ขอเชิญชวนให้คุณนำคำแนะนำเหล่านี้ไปปรับใช้

เพื่อให้พื้นแกรนิตโต้ของคุณเปล่งประกาย ความหรูหราได้อย่างยั่งยืน.