เลือกกระเบื้องห้องน้ำอย่างไรให้ทำความสะอาดง่าย

เลือกกระเบื้องห้องน้ำอย่างไรให้ทำความสะอาดง่าย

 กระเบื้องปูพื้นที่จำหน่ายโดยทั่วไปนั้นมีให้เลือกหลายแบบหลายลวดลาย การเลือกปูกระเบื้องห้องน้ำสวย ๆ จึงไม่ใช่เรื่องยาก

แต่ในการเลือกปูกระเบื้องห้องน้ำให้เหมาะสมนั้น คุณควรพิจารณาดังนี้

 

1. ประเภทของกระเบื้อง

 

สำหรับหลาย ๆ คนที่สงสัยว่าจะปูกระเบื้องห้องน้ำแบบไหนดี เราขอแนะนำประเภทกระเบื้องที่เหมาะกับห้องน้ำเพียง 2 แบบคือ
กระเบื้องแบบแกรนิตโต้และกระเบื้องแบบพอร์ซเลน ซึ่งกระเบื้องทั้ง 2 ชนิดมีความแข็งแรงทนทาน กันลื่นได้ และอัตราการซึมน้ำต่ำ

 

ส่วนกระเบื้องแบบเซรามิกก็เป็นที่นิยมเพราะทำความสะอาดง่ายและราคาถูก แต่มักจะมีปัญหาเรื่องความลื่น ส่วนกระเบื้องโมเสกก็นิยมมาตกแต่งผนังห้องน้ำ
เพื่อความสวยงาม แต่ไม่ควรใช้ปูพื้นเนื่องจากทำความสะอาดได้ยาก

 

ประเภทของกระเบื้องห้องน้ำ รายละเอียดของกระเบื้องห้องน้ำ
กระเบื้องเซรามิก กระเบื้องที่ผ่านการเผา 1 หรือ 2 ครั้ง เป็นกระเบื้องที่มีขนาดหลากหลาย และมีโทนสีสไตล์ต่าง ๆ ให้เลือกใช้มากที่สุด ส่วนใหญ่เป็นสีพื้น ๆ เช่น ขาว ดํา ฯลฯ มีวาง จําหน่ายทั่วไป ราคาไม่แพง
กระเบื้องดินเผา ส่วนใหญ่เป็นงานแฮนด์เมด ราคาค่อนข้างสูง เพราะเป็นงานเผาด้วยเทคนิคแบบดั้งเดิม ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ มีให้เลือกท้ังแบบเคลือบเงาและไม่เคลือบเงา
กระเบื้องโมเสก มีหลายวัสดุ เช่น แก้ว หิน เรซิน ฯลฯ เป็นกระเบื้องขนาด 2.5 × 2.5 เซนติเมตร นํามาเรียงกันบนตาข่ายเป็นผืนขนาด 30 × 30 เซนติเมตร นิยมนํามาตกแต่งผนัง เป็นส่วนใหญ่
กระเบื้องโมเสกแก้ว เป็นกระเบื้องที่ทําจากชิ้นงานแก้วมาขึ้นรูป ภายในตกแต่งด้วยลวดลายต่าง ๆ
กระเบื้องแกรนิตโต้ เป็นกระเบื้องที่มีอัตราการดูดซึมน้ำต่ำ มีความแข็งแรงและแกร่งมาก เนื่องจากมีส่วนผสมของหินแกรนิต เหมาะกับการปูพื้นและผนัง
กระเบื้องพอร์ซเลน เป็นกระเบื้องที่มีความทนทานที่สุด กระเบื้องทั้งแผ่นรวมถึงเนื้อสีภายในเป็นสีเดียวกัน สามารถใช้ปูได้ทั้งผนังและพื้น

 

2. ขนาดของกระเบื้อง

 

ยิ่งกระเบื้องห้องน้ำมีขนาดใหญ่เท่าไหร่ ร่องยาแนวที่ชอบกักเก็บคราบสกปรกก็ยิ่งมีน้อยลงเท่านั้น และถ้าเป็นห้องน้ำขนาดเล็กก็อาจใช้กระเบื้องปูพื้น
เพียงไม่กี่แผ่นด้วย

 

นอกจากนี้เวลาเลือกกระเบื้อง โปรดสังเกตขอบกระเบื้องด้วยว่าเป็นกระเบื้องตัดขอบหรือไม่ เพราะถ้าใช่ คุณก็จะสามารถปูกระเบื้องห้องน้ำแต่ละแผ่น
ได้ชิดติดกันมากขึ้น ลดความกว้างของเส้นยาแนวเจ้าปัญหาลงได้อีกพอสมควรเลยทีเดียว

 

3. สีของกระเบื้อง

 

น่าเสียดายที่เราต้องแนะนำว่าสีของกระเบื้องก็มีผลต่อความสะอาดของห้องน้ำด้วย เพราะถ้าเลือกปูกระเบื้องด้วยโทนสีเข้ม เช่น สีดำ สีเทา หรือสีน้ำเงิน
คราบไคลสบู่ขาวขุ่นที่ขัดออกยากก็จะปรากฏให้เห็นชัด ส่วนคราบสกปรกสีดำที่เห็นได้ชัดบนกระเบื้องสีอ่อน เช่น สีขาว หรือสีครีม
คุณก็จะสังเกตเห็นและทำความสะอาดคราบเหล่านั้นได้ง่ายกว่ากระเบื้องสีเข้ม อีกทั้งสีอ่อนยังช่วยทำให้ห้องน้ำดูกว้างขึ้นอีกด้วย

 

4. ค่ากันความลื่น

 

นิยามของกระเบื้องปูห้องน้ำที่เหมาะสมคือ ด้านแต่ไม่หยาบ เพราะพื้นห้องน้ำต้องไม่ลื่นเมื่อเปียก แต่ก็ต้องไม่หยาบจนยากต่อการทำความสะอาด
ซึ่งสังเกตได้ง่าย ๆ จากความเงาและสัมผัสความเรียบลื่นของพื้นผิวกระเบื้องก่อนตัดสินใจซื้อ และกระเบื้องโดยทั่วไปยังมีค่ากันความลื่น (Slip Resistance)
ระบุให้คุณทราบด้วย

 

โดยกระเบื้องที่เหมาะกับห้องน้ำควรมีค่ากันความลื่นระหว่าง R9-R13 และเหมาะสมที่สุดในระดับ R10

 


การเลือกปูกระเบื้องห้องน้ำให้สวยและสะอาด

 

ปูกระเบื้องห้องน้ำให้ทำความสะอาดง่าย

 

เมื่อเลือกกระเบื้องที่เหมาะสมได้แล้ว ไม่ว่าคุณจะปูกระเบื้องห้องน้ำเองหรือจ้างช่าง และไม่ว่าจะเป็นปูกระเบื้องห้องน้ำใหม่หรือปูกระเบื้องห้องน้ำทับกระเบื้องเก่า
ก็ถึงเวลาคำนึงถึงความง่ายต่อการทำความสะอาด ซึ่งมีเทคนิคง่าย ๆ ดังนี้

 

1. ใช้ยากันแนวกันเชื้อรา

 

ยากันแนวกันเชื้อยาที่ผสมสารไมโครแบน (Microban) นั้นมีคุณสมบัติในการต้านเชื้อราและแบคทีเรียไม่ให้ก่อตัวบนร่องกระเบื้องที่ยาแนวไว้
ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ดีในการป้องกันเชื้อราที่อาจเกิดขึ้นตามซอกขอบที่อับชื้นของห้องน้ำ

 

แต่ทั้งนี้ยังมีความเข้าใจผิดกันอยู่ว่ายาแนวกันเชื้อราจะทำให้ยาแนวกระเบื้องขาวสะอาดอยู่เสมอ เพราะถ้าผู้ใช้ชะล่าใจไม่หมั่นทำความสะอาด
ยาแนวกันเชื้อราก็อาจมีรอยดำจากคราบสกปรกอื่น ๆ ได้เหมือนกัน

 

 

ยาแนวกระเบื้อง 7 ประเภท และวิธีการใช้ ยืดอายุพื้นกระเบื้อง

 

2. ใช้น้ำยาเคลือบกระเบื้อง

 

น้ำยาเคลือบกระเบื้องนั้นมีให้เลือกหลากหลายคุณสมบัติ ไม่ว่าจะเป็นการเคลือบเงา เคลือบกันลื่น เคลือบกันน้ำซึม หรือเคลือบกันน้ำเกาะพื้นผิว
และมีจำหน่ายหลายยี่ห้อ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ทำให้ห้องน้ำดูสะอาดสดใสและทำความสะอาดง่ายขึ้น แต่ทั้งนี้การเลือกใช้น้ำยา
เคลือบประเภทนี้มักจะอยู่ไม่ทนทานเมื่อผ่านการใช้งานนาน ๆ คุณจึงควรเคลือบห้องน้ำใหม่ทุก 3-6 เดือนเพื่อรักษาคุณสมบัติของน้ำยาเคลือบไว้

 

3. แบ่งโซนเปียกและแห้ง

 

การแบ่งฝั่งห้องน้ำเปียกและห้องน้ำแห้งนั้นเป็นวิธีที่แสนเรียบง่ายแต่ได้ผลมากที่สุด เพราะนอกจากจะจำกัดขอบเขตความเปียกและคราบสกปรกไม่ให้ไหล
เลอะเทอะไปทั่วห้องน้ำแล้ว ยังช่วยลดพื้นที่ที่คุณต้องขัดถูลงน้ำยาจำกัดคราบสกปรกให้น้อยลงด้วย ส่วนพื้นที่โซนแห้งก็แค่กวาดถูตามปกติแล้วนาน ๆ
ค่อยขัดสักทีก็ยังสะอาดใหม่เหมือนกัน โดยคุณสามารถแยกโซนได้ง่าย ๆ ด้วยการก่อขอบกั้นหรือใช้ถาดรองอาบน้ำ แล้วใช้ฉากกั้นหรือม่านกันน้ำ
กระเซ็นควบคู่กันด้วย

 

4. เคล็ดลับการปูกระเบื้อง

 

สำหรับการปูกระเบื้องเอง คุณจำเป็นต้องถามผู้ขายก่อนว่าปูกระเบื้องห้องน้ำกี่วันจึงใช้ได้ เนื่องจากแต่ละวัสดุที่ใช้จะมีเวลาเซตตัวไม่เหมือนกัน เช่น
ถ้าใช้กาวซีเมนต์จะต้องรอ 24 ชั่วโมงจึงยาแนวได้ และต้องรออีก 7 วันเพื่อให้เซตตัวจนเข้าใช้พื้นที่ได้ ส่วนการจ้างช่างปูกระเบื้องห้องน้ำ
ราคาจะเริ่มต้นตั้งแต่หลักพันบาท และใช้เวลารอเพียง 3-4 วันหากผู้รับเหมาเลือกใช้ปูนทรายก่อสร้างทั่วไป

 

สุดท้ายนี้ความสะอาดของห้องน้ำก็ยังขึ้นอยู่กับความถี่ในการดูแลรักษาและการเลือกใช้น้ำยาขจัดคราบที่เหมาะสมกับพื้นผิวกระเบื้อง ไม่เพียงเท่านี้
ยาแนวก็เป็นอีกสิ่งสำคัญที่คุณต้องพิจารณา เพื่อรักษาห้องน้ำแสนสวยของคุณให้ทนทานและดูน่าใช้อยู่เสมอ
คุณและแขกผู้มาเยือนก็จะประทับใจกับห้องน้ำได้ทุกเวลา